วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เห็นถูกรู้แจ้ง ๓

เห็นถูกรู้แจ้ง ๓

คลิ๊กที่รูปเพื่อเข้าสู่หน้าดาวน์โหลดหนังสือ

โดย อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
เห็นถูกรู้แจ้งเป็นหนังสือธรรมะที่เน้นให้เกิดสัมมาทิฏฐิ คือความเห็นที่ถูกต้องตามแนวทางอริยะมรรคมีองค์แปด

จากปกหน้า : เทียนเป็นสภาพทุกข์ เพราะเมื่อเหตุปัจจัยเปลี่ยน เทียนต้องปรับสภาพเพื่อรักษาสมดุลใหม่ ซึ่งเทียนไม่เคยเสถียรเลยเพราะเหตุปัจจัยมีมากมายเหลือประมาณที่ส่งผลตลอดเวลาต่อเทียนในแต่ละวินาที

คำพยากรณ์จากเด็กชายปลาบู่
คำบอกเล่าถึงภัยพิบัติของเด็กชายปล่าบู่ระลึกชาติ
เอาของเน่ามาแลกของดี ทำไมไม่รีบเอา
ตายอยู่แล้ว ไม่มีไม่ตาย
บรรลุธรรมด้วยปัญญา
ภัยจะพิบัติไหม่ไม่รู้แต่ใจพิบัติไปก่อนแล้ว
ปฏิบัติไปก็ไม่เห็นดีขึ้นเลย
เราอยากเป็นใครไหม?
ปีใหม่ไปไหนมาบ้าง
เจ้ากรรมนายเวร
พวกเราผู้มีความเกิดเป็นธรรมดา
สติ สมาธิ ปัญญา เป็นผู้ร้ายของผู้มีมิจฉาทิฏฐิ
ผู้คุ้มกฎ
เก่งหรือโง่ ที่เล่นกับเสือเหมือนเล่นกับแมว
ท่องเที่ยวไป เดินทางไกล ในโลกกว้าง
ร่มเงา เมฆ พระอาทิตย์
องคุลีมาล เรื่องที่เราไม่เคยได้ยิน
แต่ละวัน แต่ละวันมีที่ว่างให้ทุกคนพักได้อย่างสบายใจ
อย่าประมาท เราอยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้
หมอ...ได้โปรดอย่าโกหก
เปรต ทุสะนะโส
วัดความก้าวหน้าจากชีวิตตอนนี้ มีความสุข?
ถ้าไม่มีเครื่องสำอางค์ แล้วคุณค่าของผู้หญิงคืออะไร?
โลกนี้มีอยู่แค่ตอนนี้ จะสุขจะทุกข์จะอุเบกขา ก็อยู่แค่ตอนนี้
บุญกุศล และอานิสงส์ของมนุษย์
ตาย
ความรักความเมตตา
ความเป็นกู เป็นของกู
ซื้อของให้ผู้อื่น...ได้บุญ ซื้อของให้ตนเอง...ไม่ได้บุญ
ตัวโอกาส
หัวใจพุทธ
การบรรลุธรรมด้วย iPad
ขอบคุณกิเลสฝ่ายขาวที่ทำให้เราอยากปฏิบัติธรรม
หน้าที่บังความดี
ทำมา_กิน
เหตผล เหตุให้เกิดทุกข์
ที่วัดส่วนสูง
ไม่ได้คิดอะไร-คิดมากน่า
เวลามีค่าทุกวินาที
เลี้ยงลูกไม่เป็น
ทำไมผู้ชายมีเมียน้อย
เรื่องราวในชีวิตจริง

จากปกหลัง : เปลวเทียนมีความร้อนโดยสภาพของมัน แต่เปลวเทียนของเงาในกระจกกลับไม่มีสภาพความร้อนใดๆ ในกระจกเลย หากจิตของเราเพียงรับรู้สภาพสรรพสิ่งโดยปราศจากการปรุงแต่ง การรับรู้จะเป็นเพียงสักแต่ว่าเห็นดังเช่นกระจกเงา ไม่หลงปรุงมันขึ้นมาเป็นเจ้าของด้วยความไม่รู้จะเกิดความทุกข์ขึ้นได้อย่างไร

ภาพต่างๆ ที่เกิดเป็นเงาในกระจกเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ตลอดเวลา แต่การเกิดขึ้นดับไปของภาพทั้งหลายนั้นไม่เคยสร้างความยินดีพอใจหลงใหลได้ปลื้มให้กับกระจก ภาพนั้นๆ จะร้อนแรงหรืออ่อนโยนก็ไม่เคยสร้างความเปลี่ยนแปลงใดๆ ให้กระจกเงาเกินเป็นอารมณ์

เมื่อจิตรู้อริยสัจขึ้นมาอย่างแจ่มแจ้ง จิตจะรับรู้สภาพต่างๆ โดยไม่ปรุงแต่งยึดถือตนเองขึ้นมาอีก จิตจะกลับไปสู่ธรรมชาติเดิมแท้ นั่นละคือความสงบเย็นที่แท้จริง

ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่สาธุชนทุกท่าน

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หนังสือเห็นถูกรู้แจ้ง ๒

หนังสือเห็นถูกรู้แจ้ง ๒

คลิ๊กที่ภาพเพื่อเข้าสู่หน้าดาวน์โหลดไฟล์ PDF

โดย อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
หนังสือธรรมะที่เน้นให้เกิดสัมมาทิฏฐิ คือความเห็นที่ถูกต้องตามแนวทางอริยะมรรคมีองค์แปด สัมมาทิฏฐิเป็นมรรคองค์ที่หนึ่ง เมื่อเห็นถูกก็จะเป็นทางให้เกิดมรรคองค์ที่สองจนถึงแปดซึ่งเป็นหนทางนำไปสู่การรู้แจ้ง

จากปก : หากเราสร้างเหตุในการอ่านตั้งแต่หน้าแรกไม่มีหยุด... หน้าสุดท้ายต้องมาถึงแน่โดยไม่ขึ้นกับเจตนาของผู้อ่านว่าอยากจะให้ถึงหรือไม่อยากจะให้ถึง

ทุกข์เกิดตอนคิด (ปรุ่งแต่ง)
ผิดก็ทุกข์ ถูกก็ทุกข์
คิด ปรุงแต่ง ทุกข์
สาเหตุ ๕ ประการ ทีทำให้ฟังธรรมไม่รู้เรื่อง
ภัยพิบัติ ไม่ได้อยู่ที่เหตุการณ์ภายนอก ภัยพิบัติเกิดจากจิตโง่ไปทุกข์เอง
เราฝึกปล่อยวาง...ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย
ทำไมต้องเนกขัมมะ ปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างธรรมชาตของเราไม่ได้เหรอ
ระหว่างพรุ่งนี้กับชาติหน้า อะไรมาถึงก่อน
เล่นบาร์บี้ด้วยจิตว่าง
มีก๊าซไข่เน่า เพราะพื้นบ่อมันเน่า
จดหมายจากเด็กคนหนึ่งเรียกน้ำตาจากครูพี่เลี้ยง
รู้ลม...ทางเดินสู่พระนิพพาน
ผ้าปูที่นอนแสนรัก
ธรรมะจากหลวงปู่แบน
ละอกุศลแล้วจะโชคดี
กาลเวลากัดกินเราเพราะเรายึดมันไว้
ยายยิ้ม ผู้ที่นักปฏิบัติต้องคารวะ
Transformers
เบื่อไฟแดง
อย่าเป็นเปรตเฝ้าเหตุเฝ้าผล (คำหลวงปู่หล้า)
ทางเลื่อนในสนามบินสุวรรณภูมิ
จะได้ไปเที่ยวแล้ว
ปลวกขึ้นบ้าน
มีรถไหม?
สงสารเด็กทุกคน
ไก้กับพระอาทิตย์
ออกจากกามแบบอยู่กับกาม
ประทับใจเด็กญี่ปุ่น
Real Time
ทุกอย่างว่างจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน
น้ำแกล้งเราหรือ?
กูว่าแล้ว
อยู่กับน้ำ ต้องเป็นน้ำ
น้ำราดมด
อย่าทิ้งธรรมยามน้ำท่วม
ภัยพิบัติ 2012
ประมาท
ทึ่ง! กับน้ำท่วมบ้าน
ทำไมมหาบุรุษจึงมีพระสิริโฉมงดงาม
เราจะยิ้มให้กำลังใจทุกคน
จิตอาสาปีหนึ่งทำกี่ที
กลัวภัยพิบัติ กลัวตาย
ความลำบากต้องทุกข์หรือ

วางตัวตนของเราลง แล้วอุทิศตนให้กับโลก แล้วยกความดีทั้งหมดให้โลกไปเลย ความสุข สงบเย็น จะบังเกิดมีขึ้นอย่างแน่นอน ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่สาธุชนทุกท่าน

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หนังสือ เห็นถูก รู้แจ้ง ๑

หนังสือ เห็นถูก รู้แจ้ง ๑



คลิ๊กที่ภาพเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ PDF ที่เว็บไซด์สวนยินดีธรรม

 โดย อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม

หนังสือธรรมะที่เน้นให้เกิดความเห็นที่ถูกต้อง โดยรวบรวมมาจากบทความสั้นๆ ที่อาจารย์ประเสริฐ อุทัยเฉลิม เขียนไว้ในเว็บไซด์สวนยินดีธรรม เป็นหนังสือที่แจกเป็นธรรมทาน เนื้อหาในหนังสือประกอบด้วย

เกริ่นนำ
กาลามสูตร
หยิบอันไหน
อยากปฏิบัติธรรมแบบได้ผล เอาแบบง่ายๆ
จับอะไรดี
คนตาบอดเถียงคนตาดี
สีลพตรปรามาส
โลกไม่ได้หมุนรอบดวงอาทิตย์
มุมมอง : โลกไม่ได้หมุนรอบดวงอาทิตย์
นั่งสมาธิไม่ได้...มันฟุ้ง
ลอกขนมชั้น
อยู่กับปัจจุบันไปก่อน
การวัดความก้าวหน้าในการปฎิบัติ
เหตุที่ใจไม่สงบ
ความเป็น BMW ไม่ได้อยู่ที่ล้อหรือไฟหน้า
ต้องเห็นเกิดดับแบบไหน ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้
คนเราฟังธรรมเฉพาะที่เราชอบ
เดินจงกรม-นั่งสมาธิไม่สงบเลย
นั่นไม่ใช่ของเรา
ขั้นตอนการพ้นทุกข์คามวิถีมรรค
จะได้รู้ว่าอยู่ที่ไหน
รู้แล้วดับ รู้แล้วไม่ดับ แล้วไม่รู้ดับไหม
พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร
ปกหลังหนังสือ "กลัวเกิดไม่กลัวตาย"
นรก สวรรค์ นิพพาน
มรรคมีองค์ ๘
ไก่กับไข่
สั่งสมความเห็นผิด
ยาจกดีใจ เศรษฐีเศร้าใจ
สมัยพุทธกาลไม่มีการเปิดคอร์ส
ความสุขของคนติดเฮโรอีน
รู้ทำไม...รู้เพื่อไม่หลง แต่ต้องฝึกให้เขาละ...เพื่อหลุดพ้น
ธรรมอันเป็นเครื่องขูดเกลา (สัลเลขะธรรม)
ทักทาย
ธรรมะอันเป็นฝักฝ่ายแห่งทุกข์ ที่มีกามตัณหาเป็นมูล ๙ อย่าง
เราไม่เคยฟังใคร
บทส่งท้าย
ประวัติผู้เขียน อาจารประเสริฐ อุทัยเฉลิม

เป็นหนังสือธรรมะที่อ่านเข้าใจง่ายจนคุณอาจวางไม่ลง ลองดาวน์โหลดไปอ่านดูนะครับ ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่สาธุชนทุกท่าน

วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

หนังสือ The Genie Within อานุภาพจิตใต้สำนึก

หนังสือ The Genie Within อานุภาพจิตใต้สำนึก

หนังสือ The Genie Within อานุภาพจิตใต้สำนึก

เขียนโดย แฮร์รี่ ดับบลิว คาร์เพนเตอร์
แปลโดย พรรณี ชูจิรวงศ์

ปัจจุบัน มีหนังสือหลายเล่ม และหลักสูตรสัมมนามากมายเกี่ยวกับพลังอำนาจของจิตใต้สำนึก บ้างก็ออกแนวชวนเชื่อเหมือนเป็นพลังวิเศษ พลังลึกลับที่ไม่อาจอธิบายได้ และรู้สึกว่ามันออกจะเหนือจริงไปสักหน่อย ทว่า ผู้เขียนการอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ได้อย่างมีเหตุ และผลมากพอสมควร และมันน่าทึ่งที่ได้เรียนรู้ละเอียดขึ้นถึงความอัศจรรย์ของสมองมนุษย์ หากศึกษาในแง่จิตวิทยาจะพบว่า จิตของมนุษย์แบ่งออกเป็นหลายระดับ ทั้งจิตสำนึก จิตใต้สำนึก จิตไร้สำนึก และถึงขั้นจิตเหนือสำนึกกันเลยด้วยซ้ำ แล้วพวกมันแตกต่างกันอย่างไร มีผลกับชีวิตเรามากถึงขนาดที่เราต้องใส่ใจศึกษากันเลยเชียวหรือ คำตอบคือควรจะ เพราะอะไรที่รู้ได้ก็ควรรู้ โดยเฉพาะสิ่งที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตเรา ใส่ใจกันสักหน่อย รู้ไว้ไม่เสียหลาย ยิ่งมีคนศึกษาค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลมากมาย และนำมากลั่นกรองสรุปให้เราเหลือแค่ไม่กี่หน้ายิ่งดี และถ้ายิ่งอ่านง่าย เขียนภาษาไม่คนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ อ่านรู้เรื่องยิ่งดีเข้าไปใหญ่

เพราะทุกสิ่งในชีวิตไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวพันกันอย่างรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง และการไม่รู้ตัวนี่แหละที่เขาบอกว่ามาจากจิตใต้สำนึก คงดีไม่น้อยหากเราจะได้เรียนรู้ และเข้าใจจิตใต้สำนึกของเรามากขึ้น และรู้จักวิธีที่จะสั่งการมันเพื่อประโยชน์สุขของเราเอง และผู้อื่น ก็ต้องขอบคุณผู้เขียนที่นำข้อมูลมากมายที่เขาศึกษาตลอดชั่วชีวิตมาบอกเล่าต่อให้เราได้รับรู้ถึงพลังอานาจที่มีอยู่ในตัวเราเองอยู่แล้ว แค่ต้องหัดสั่งการมันอย่างถูกวิธีเท่านั้น ของดีอยู่กับตัวอยู่แล้วนี่ ลองฝึกกันสักตั้งจะเป็นไร

เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ตั้งใจจัดทำขึ้นเพื่อคนธรรมดาสามัญที่ปราถนาจะมีสุขภาพแข็งแรง ดำรงชีวิตอย่างไม่เจ็บไม่ไข้ เปลี่ยนแปลงเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น ปรับปรุงทักษะ และได้สัมผัสกับความสงบทางจิตใจ เนื้อหานี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาแทนที่การบำบัดของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพแต่อย่างใด วิธีที่คุณสามารถนำข้อมูลในหนังสือเล่มนี้ไปใช้มีมากมายไม่จำกัด

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

หนังสือ The sales success handbook พิชิตฝัน นักขาย

หนังสือ The sales success handbook พิชิตฝัน นักขาย

หนังสือ The sales success handbook พิชิตฝัน นักขาย

เขียนโดย Linda Richadson
แปลและเรียบเรียงโดย รศ.ศศนันท์ วิวัฒนชาต และพรปรียา วิวัฒนชาต

ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะมีนักขายมากมาย แต่ทว่านักขายที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนั้นกลับมีไม่มากเท่าที่ควร การขายในยุคปัจจุบันแตกต่างไปจากสมัยก่อนมาก สิ่งที่นักขายต้องทำคือ การแสดงให้ลูกค้าของคุณเห็นว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะช่วยแก้ปัญหาได้ตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร คุณจะต้อง ฟัง ฟัง และฟังลูกค้า และค้นหาให้พบว่าเขาต้องการอะไร

หนังสือพิชิตฝันนักขายเล่มนี้จะช่วยพัฒนาคุณให้กลายเป็นนักขายที่ยอดเยี่ยม จากบทเรียนทั้ง 20 ข้อ ที่จะทำให้คุณสามารถเปิด และปิดการขายได้ทันที และนำพาคุณให้ไปถึงฝั่งฝัน เป็นนักขายที่ประสบความสำเร็จในที่สุด

การแข่งขันในโลกธุรกิจ ปัจจุบันทำให้นักขายต้องมีการฝึกฝน พัฒนาตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานักขายในยุคสร้างสัมพันธภาพนี้ จำเป็นต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์ลูกค้า ตลาด รอบรู้ถึงสินค้า คู่แข่งขัน และปรับเทคนิคการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้มีโอกาสขายได้มากขึ้น

หนังสือพิชิตฝันนักขาย 20 บทเรียนสำหรับการเปิด และปิดการขายให้สำเร็จได้ทันทีเล่มนี้ จะช่วยให้ท่านได้เรียนรู้ถึงความต้องการของลูกค้าจากลูกค้า เพื่อนำมาใช้ในการเปิดการขายให้ตรงใจ ทักษะการตั้งคำถาม การฟัง และการเสนอขาย การใช้ข้อโต้แย้ง เปิดเกมรุก และนำไปสู่การปิดการขายในที่สุด จึงเหมาะกับนักขายที่ต้องการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาทักษะในการทำงานให้เป็นนักขายมืออาชีพในอนาคต ตลอดจนนิสิตนักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไป

เนื้อหาหนังสือประกอบด้วย

20 บทเรียนสำหรับเปิด และปิดการขายให้สำเร็จได้ทันที

การเจรจาขาย
สร้างบทสนทนา
เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
ลับทักษะที่สำคัญของคุณให้แหลมคม
เปิดการขายโดยมุ่งเน้นที่ลูกค้าของคุณ
สร้างความเกี่ยวพันกับลูกค้า
กำหนดวิธีการตั้งคำถามของคุณ
พัฒนากลยุทธ์ในการตั้งคำถามของคุณ
คิดถึงคำถาม
จัดทำบทสทนาที่สอดคล้องกับความต้องการที่แท้จริง
มุ่งเน้นว่าคุณสามารถถามคำถามได้อย่างมีทักษะมากน้อยเพียงใด
การฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
วางตำแหน่งคำพูดของคุณ
วิเคราะห์คู่แข่งของคุณ
ใช้ข้อโต้แย้งเพื่อเปิดเกมรุกไปข้างหน้า
หมั่นตรวจสอบผลตอบรับจากลูกค้า
อย่าเจรจาเร็วเกินไป
ทำการปิดการขายเสมือนว่าเป็นกระบวนการอย่างหนึ่ง
ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรต่างๆ ทั้งหมด
การติดตามผลอย่างไร้ที่ติ
หาโอกาสที่ดี และเหมาะสม
ทำให้การขายเกิดขึ้นจริง

ขอให้สนุกกับงานขายของคุณ อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะพบว่าชัยชนะในการขายของคุณรออยู่ไม่ไกลเกินที่จะไขว่าคว้า

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

หนังสือ ยอดนักจำต้องทำอย่างนี้

หนังสือ ยอดนักจำต้องทำอย่างนี้

หนังสือ ยอดนักจำต้องทำอย่างนี้


เขียนโดย แฮร์รี่ โลเรน
แปลเรียนเรียงโดย ธรรมรงค์ น้อยคูณ

หากเราศึกษาชีวประวัติ และผลงานของบรรดานักธุรกิจ นักบริหาร นักการธนาคาร กระทั่งนักการเมืองระดับรัฐบุรุษอย่างละเอียดแล้ว จะพบว่าบรรดาบุคคลสำคัญผู้ก้าวสู่จุดสูงสุดของแต่ละสาขาวิชาชีพเหล่านี้ มีคุณสมบัติเหมือนกันอยู่ประการหนึ่ง คือ จำแม่น หรือมีความจำเป็นเลิศ และบุคคลเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นผู้รู้จักใช้ความจำ มาเสริมสร้างสมรรถนะในการทำงาน และเสริมสร้างบุคลิกภาพที่น่ารักน่าประทับใจ จนชนะคนรอบข้าง และสาธารณะชน

จริงอยู่ ผู้ที่บรรลุความสำเร็จเหล่านี้ มักเป็นคนประเภทฉลาด สมองดี ซึ่งหมายถึงมีความจำดีด้วย กระนั้นก็มิได้หมายความว่า ผู้ที่มีมันสมองระดับปานกลางหรือด้อยกว่านั้น จะต้องผูกติดกับลักษณะความจำไม่ดี ลืมง่าย ชนิดแก้ไขไม่ได้ แท้จริงแล้วคนที่ฉลาด สมองดี เพียงแต่ตระหนัก และเริ่มต้นฝึกฝนทักษะการจำทันทีที่เข้าสู่ระบบการศึกษา ขณะที่คนที่มีมันสมองระดับปานกลางหรือด้อยกว่านั้น ยังไม่ตระหนัก และยังไม่ได้เริ่มต้นฝึกฝนทักษะส่วนนี้

ถึงที่สุดแล้ว ความจำ เป็นเรื่องของทักษะ ขึ้นอยู่กับการฝึกหัดฝึกฝน และทุกคนมีความเสมอภาคโดยถ้วนหน้า ที่จะพัฒนาความเป็นผู้มีความจะเป็นเลิศ "ยอดนักจำต้องทำอย่างนี้" เป็นหนังสือที่ให้ระบบ และหลักการพื้นฐานสำหรับฝึกความจำ โดยไม่อ้อมค้อม ไม่กล่าวอรัมภบทในเรื่องศาสตร์แห่งการเรียนรู้ หรือแจกแจงลักษณะทางกายภาพของสมองของคนเราให้มากความ หากแต่ลัดสู่เทคนิคการพัฒนาความจำ ให้ผู้อ่านเริ่มต้นการฝึกหัดฝึกฝนตนเองได้ทันที ด้วยวิธีการที่ง่าย เพลิดเพลิน ค่อยๆ ซึมซับ กระทั่งเกิดผลทันใจ

เนื้อหาหนังสือประกอบด้วย

1. คุณช่างสังเกตุเพียงใด
2. นิสัยคือความจำได้
3. ทำสอบความจำของคุณ
4. ความสนใจในการจำ
5. วิธีเกี่ยวโยงความจำ
6. ระบบตาขอแขวนหมวก
7. การใช้ระบบเชื่อมโยง และระบบตาขอแขวนหมวก
8. ฝักหัดสังเกตุ
9. วิธีการจำเกร็ดความรู้ สุนทรพจน์ บทความ บทละคร
10. วิธีจำไพ่
11. วิธีจำตัวเลขหลายหลัก
12. การจำ วัน-เดือน-ปี
13. วิธีจำชื่อและใบหน้า
14. จำชื่อและใบหน้าเพิ่มเติม
15. จำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคล
16. ความสำคัญของการจำ
17. จำเวลานัดหมาย และกำหนดการ
18. การจำวันครบรอบปี วันเกิด และวันสำคัญอื่นๆ
19. การใช้ระบบต่างๆ

ด้วยหนังสือยอดนักจำต้องทำอย่างนี้ ท่านผู้อ่านจะพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นผู้มีความจำดีเลิศในเวลาไม่นาน ซึ่งนอกจากเป็นการพัฒนาขีดขั้นของศักยภาพทางสมอง ความคิด ความอ่าน ยังเป็นการนำพลังงานในตัวคุณมาใช้ได้เต็มที่ขึ้น ซึ่งจักมีประสิทธิผลต่อบุคลิกภาพ และสมรรถนะการทำงานของคุณ

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556

หนังสือ Big Boss Big Idea ภารกิจเถ้าแก่ยุคใหม่

หนังสือ Big Boss Big Idea ภารกิจเถ้าแก่ยุคใหม่

หนังสือ Big Boss Big Idea ภารกิจเถ้าแก่ยุคใหม่

เรียบเรียงโดย พิสชา เดือนเพ็ญ

หนังสือเล่มนี้ได้ประมวลสิ่งที่เราถือว่าเป็นแก่นแท้ของแนวความคิดของนักเขียนเกี่ยวกับการจัดการ และของผู้จัดการขั้นนำระดับโลก อย่างไรก็ตามเรานำเสนอความคิดเหล่านี้โดยเน้นความสำคัญ เรียงลำดับก่อนหลัง และแปลความหมายของมันด้วยตัวเราเอง หนังสือเล่มนี้เป็นคู่มือจำเป็นอย่างขาดเสียมิได้สำหรับผู้จัดการ เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างฉับพลันในการดำเนินงานประจำวัน ดังนั้นผู้จัดการจึงควรเก็บมันไว้ใกล้มือตลอดเวลา หนังสือเล่มนี้แปลความหมายแนวความคิดต่างๆ ของนักคิดระดับโลกในด้านการจัดการ และทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นความคิดของ ปีเตอร์ เอฟ. ดรักเกอร์, คูนด์ แมคโดนัล, ฮัมเบิล, เออวิคก์ และโอดอนเนลล์ โดยย่นย่อให้เป็นกฏเกณฑ์ที่เข้าใจได้ด้วยสามัญสำนึก แทนที่จะเอาหนังสือเกี่ยวกับการจัดการเล่มหนาๆ หลายๆ เล่มโถมทับใส่คุณ

สิ่งที่ปีเตอร์ ดรักเกอร์ ปรมาจารย์แห่งการจัดการบอกเราคือ ปัจจุบันเรากำลังอยู่ในโลกแห่งองค์การ และองค์การครอบงำชีวิตเรา ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม แต่องค์การนั่นเองทำให้เรามียาสีฟัน และสบู่ใช้ในชีวิตประจำวัน ผลิตรถยนต์ที่เราขับ วางรางรถไฟ ต่อเรือและเครื่องบินที่เราใช้เดินทาง รวมทั้งผลิตอาหารและเสื้อผ้าที่เรากินเราใช้อีกด้วย องค์การยังให้งานเราทำ และให้รายได้แก่เรา ดรักเกอร์ย้ำว่าถ้าองค์การได้รับการจัดการเป็นอย่างดี สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือโลกนี้จะดีขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าองค์การได้รับการจัดการที่ไม่ดี โลกก็จะไม่ดีด้วยเช่นกัน การจัดการที่ดี ซึ่งครอบคลุมชีวิต และกิจกรรมทุกด้านของเรา จึงกลายเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง มันคือกุญแจที่จะไขไปสู่ความสำเร็จของปัจเจกชน เช่นเดียวกับเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จสำหรับบริษัท และสำหรับประเทศชาติด้วย

ปัจจุบันองค์การวิสาหกิจหลายแห่งทั่วโลกทำงานโดยใช้สมรรถภาพที่มีอยู่เพียง 50% เท่านั้น ถ้าองค์การวิสาหกิจเหล่านี้ทำงานเต็มตามสมรรถภาพของมัน ปัญหา และความยุ่งยากต่างๆ เป็นอันมากจะมลายหายไปสิ้น การจัดการที่ดี และการจัดการที่ดีเท่านั้น จึงจะทำให้องค์การต่างๆ ทำงานโดยใช้สมรรถภาพเต็ม 100% ที่เป็นเหตุที่ทำให้การศึกษาเรื่องเกี่ยวกับการจัดการมีความสำคัญมากในปัจจุบัน และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมหนังสือเล่มนี้จึงเป็นหนังสือที่ขาดเสียไม่ได้สำหรับทุกคนที่ต้องการจัดการองค์การ ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการจัดการขององค์การข้ามชาติขนาดยักษ์ หรือผู้จัดการของรัฐวิสาหกิจ หรือนายทหารระดับสัญญาบัตร หรือข้าราชการ หรือซูเปอร์ไวเซอร์ในโรงงาน หรือผู้บริหารมาหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับเจ้าของภัตตาคารเล็กๆ ซึ่งมีพนักงานเสิร์ฟเป็นผู้ช่วยเท่านั้น หนังสือเล่มนี้ยังมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาวิชาการจัดการอีกด้วย

หนังสือเล่มนี้แม้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ได้ แต่มันจะชี้ให้ผู้ที่กำลังทำหน้าที่จัดการรู้ว่าความผิดพลาดที่กำลังเกิดขึ้นคืออะไร และช่วยพวกเขาให้รู้จักวางแผนการเพื่ออนาคต การรับมือกับปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นงานของผู้จัดการทุกคน หนังสือเล่มนี้จึงเป็นคู่มือสะดวกใช้ ซึ่งจะช่วยให้เอาชนะปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไม่ชักช้า